ขับรถส่วนตัวเที่ยวลาว (จากเว็บลาว)
ขั้นตอนการจัดทำเอกสารเพื่อนำรถออกนอกราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยว
1. พาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วงดังตัวอย่าง) ซึ่งสามารถขอทำได้ที่ แผนกทะเบียนฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด
(กรุงเทพ - หน้าสวนจตุจักร) ราคาเล่มละ 50 บาท
การต่ออายุจะเป็นแบบปีต่อปี ค่าต่ออายุเล่มละ 25 บาท
(หากหมดอายุไปแล้วไม่ต่อก็ได้หรือมาต่อใหม่ภายหลังก็ไม่เสียค่าปรับ)
เอกสารประกอบคือสมุดประจำรถตัวจริง ชื่อผู้ขออนุญาตกับผู้ครอบครองต้องเป็นคนๆ เดียวกัน
หากเป็นคนละคนเช่น กรณีเอารถที่บ้านมาใช้หรือรถเช่าซื้อ (ติดไฟแนนท์)
ต้องมีหนังสือยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของรถว่าอนุญาตให้คุณสามารถนำรถออกนอกประเทศได้ (ป้องกันรถขโมย)
รูปถ่ายไม่จำเป็นต้องเตรียมไปเพราะถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ต้องถ่ายรูปให้คุณใหม่อยู่ดี
จากนั้นสามารถรอรับเล่มได้ภายในวันเดียวกันพร้อมกับพาสปอร์ตรถคุณยังจะได้ป้ายสติกเกอร์ตัว T
(หมายถึง Thailand นั่นคือรถที่มาจากประเทศไทยนั่นเอง) มา 2 ใบ เอาไว้เพื่อติดกระจกรถของคุณทั้งด้านหน้า – หลัง
2. ใบขับขี่แบบใหม่ (บัตรแข็ง Smart Card) ซึ่งสามารถใช้เป็นใบขับขี่ได้ตามปกติ
และยังใช้ขับขี่ระหว่างประเทศในอาเซียน 10 ประเทศได้อีกด้วย ขั้นตอนการขอก็ไม่ยาก
คุณสามารถนำใบอนุญาตขับขี่เดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไปยื่นความจำนงขอเปลี่ยนเป็นบัตรแบบแข็ง (Smart Card)
ได้ที่แผนกใบอนุญาตฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด โดยเสียค่าธรรมเนียมในการขอเปลี่ยนฉบับละ 165 บาท
วันหมดอายุสำหรับบัตรใหม่นั้น จะอ้างอิงตามบัตรเก่าที่คุณมีอยู่
หมายความว่าถ้าผู้ใดถือใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพ
บัตรใหม่ก็จะเป็นแบบตลอดชีพเช่นเดียวกันหรือถ้าเป็นใบอนุญาตขับขี่แบบ 1 ปี
วันหมดอายุของบัตรใหม่ก็จะหมดตามบัตรเก่าของคุณนั่นเอง
หลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว จากนั้นไปรอเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปเพื่อติดใบขับขี่ฉบับใหม่ได้เลยครับ
3. ใบขับขี่สากล (คนละอันกับใบขับขี่แบบใหม่นะครับอย่าสับสน)
การทำใบขับขี่สากลนั้นสามารถยื่นเรื่องติดต่อได้ที่กรมการขนส่งทางบกจังหวัดเช่นเดียวกันและใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง
ก็ได้รับเล่มเรียบร้อย ราคาค่าธรรมเนียม 505 บาท ต่ออายุปีต่อปี เช่นเดียวกับพาสปอร์ตรถ
(หากหมดอายุถ้าไม่ต่อก็ไม่เสียค่าปรับเช่นเดียวกัน) ใบขับขี่สากลนี้นอกจากคุณจะใช้ขับรถเก๋ง กระบะ
แล้วยังใช้ขับมอเตอร์ไซด์ รถบรรทุกไม่เกิน 6 ล้อ ได้อีกด้วย (บอกเผื่อไว้เพื่อเป็นความรู้)
** การทำใบขับขี่สากลนั้นใช้สำหรับกรณีที่คุณจะต้องไปในประเทศที่นอกเหนือภาคีสมาชิก 10 ประเทศอาเซียน
เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการขับขี่รถไปประเทศใกล้ๆ (10 ประเทศที่ว่า) ก็ไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากลแล้วครับ **
ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่ไม่ว่าคุณต้องการจะขับรถอยู่ในประเทศใดๆก็ตามจะต้องทำใบขับขี่สากลอย่างเดียว
4. ป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศ อันนี้ก็เป็นระเบียบใหม่ที่เพิ่งออกมาเช่นเดียวกับใบขับขี่แบบ Smart Card
เพื่อใช้สำหรับรถที่เดินทางออกจากประเทศเพื่อจะไปยังประเทศ ลาว เวียดนาม กัมพูชา
การยื่นขอป้ายทะเบียนระหว่างประเทศนั้นสามารถยื่นเรื่องขอทำได้ที่แผนกทะเบียนฯ
กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดได้เช่นเดียวกันกับพาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วง) แต่มีจุดที่แตกต่างกับการทำพาสปอร์ตรถคือ
พาสปอร์ตรถคุณสามารถยื่นเรื่องขอได้ที่ขนส่งทุกจังหวัดทั่วประเทศไม่ว่ารถคุณจะขึ้นทะเบียนที่จังหวัดใด
แต่ ป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศคุณต้องยื่นเรื่องขอเฉพาะขนส่งที่รถคุณได้ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น
ค่าธรรมเนียม 200 บาท รอรับป้ายภายใน 20 วันหลังจากคุณมี พาสปอร์ตรถ
และใบขับขี่แบบใหม่พร้อมทั้งป้านทะเบียนรถระหว่างประเทศ (ซึ่งจะเป็นป้ายภาษาอังกฤษ ว้าว!! เท่ห์จัง)
เรียบร้อยแล้วทีนี้คุณก็สามารถขับรถมาเที่ยวที่ลาวได้แล้วครับ
เมื่อมาถึงด่าน ตม. สะพานมิตรภาพไทย - ลาว
คุณต้องมากรอกเอกสารที่เค้าเรียกว่า ใบขนส่งสินค้าพิเศษ (เป็นชื่อแบบฟอร์มของ ตม.) และ ใบรายละเอียดของพาหนะ
ซึ่งขั้นตอนนี้คุณก็กรอกลงไปเกี่ยวกับข้อมูลของคุณ + จำนวนผู้ติดตามในรถ
และรายละเอียดของรถที่คุณจะนำออกนอกประเทศ จากนั้น ต้องเก็บไว้ให้ดี
เพราะ ด่าน ตม. จะเอาคืนเวลาคุณกลับเข้าประเทศ (ป้องกันการขโมยรถออกนอกประเทศเช่นเดียวกัน)
เมื่อเสร็จขั้นตอนต่างๆ แล้วเจ้าหน้าประทับตราขาออกก็เท่ากับว่าขั้นตอนทางฝั่งไทยเรียบร้อย
ขั้นตอนที่ว่าทั้งหมดนี้ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น
ตัวอย่างใบรายละเอียดของยานพาหนะ หน้าตาประมาณนี้ เมื่อเอกสาร 2 ตัวนี้เรียบร้อยก็ออกรถข้ามสะพานได้เลย
จากนั้นเมื่อมาถึงด่าน ตม.ของลาว คุณจะต้องทำเอกสาร 2 ส่วนคือ
ใบติดตามพาหนะเข้าชั่วคราว
และทำประกันภัย ซึ่งคุณสามารถกรอกเป็นภาษาไทยได้เลยครับ ส่วนหัวด้านซ้ายตัดเพื่อติดหน้ากระจกรถคุณครับ
รายละเอียดจะคล้ายๆ กับที่ทำฝั่งไทย แต่จะมีให้กรอกข้อมูลสอบถามถึงผู้ค้ำประกัน
ตรงนี้คุณก็กรอกชื่อของคุณได้เลย และจะต้องกรอกระยะเวลาในการนำรถเข้ามาด้วยว่ามากี่วัน
(ค่าธรรมเนียม แตกต่างกัน) ในตัวอย่างเข้าวันที่ 9/7/2007 ออก 15/7/2007 รวม 7 วัน
ซึ่งเอกสารตรงนี้คุณสามารถนำรถขับท่องเที่ยวไปได้ทั่วประเทศลาว
และไม่จำเป็นต้องกลับออกมาทางด่านเก่าก็ได้
เช่น คุณขับรถเข้าทางด่านหนองคายแล้วขึ้นมาเที่ยวที่หลวงพระบาง
จากนั้นขากลับคุณจะกลับทางด่านห้วยทรายเพื่อกลับทางเชียงของก็ได้
(แต่อย่าให้เกินวันที่อนุญาตแล้วกัน ไม่งั้นจะถูกปรับ)
ตัวอย่างใบค่าธรรมเนียมภาษีติดตามพาหนะชั่วคราว (ฝั่งลาว)
ตัวอย่างใบประกันภัยของบริษัทประกันภัยลาว
ตัวอย่างใบค่าธรรมเนียมนำพาหนะผ่านด่านเข้าเมือง (ฝั่งลาว)
สรุปค่าใช้จ่าย
ฝั่งไทย ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น
ฝั่งลาว ค่าธรรมเนียมประกันภัยรถคุณ ราคาแตกต่างกันแล้วแต่จำนวนวันที่คุณมา
(ในตัวอย่าง 7 วัน) ประมาณ 60,000 กีบ (240 บาทโดยประมาณ)
ค่าธรรมเนียม (รถ+คน) ผ่านด่านเข้าเมือง คนละ 200 บาท
(อันนี้คิดผู้ติดตามในรถทุกคน ยกเว้นคนขับไม่เสีย) เช่น พ่อ - แม่ - ลูก พ่อคนขับไม่เสีย แม่ - ลูก รวม 2 คน 400 บาทเป็นต้น
ค่าธรรมเนียมที่ใช้พาสปอร์ตในการเข้าเมืองอีก คนละ 10 บาท
เพียงเท่านี้ก็ไม่ยากเกินไปใช้ไหมครับสำหรับการนำรถเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน
ขอให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างมีความสุขครับ ที่สำคัญเมาไม่ขับนะครับเพราะที่ประเทศสปป.ลาว
เดี๋ยวนี้เค้าก็มีการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์แล้วเช่นเดียวกัน