soupvanclub
=> พิกัดเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: ลุงซุป เชียงใหม่ ที่ 12 พฤษภาคม 2567, เวลา 21:04:01 น.

หัวข้อ: พิชิตเขาซีซาน - ลอดประตูมังกร ที่ "คุนหมิง"
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงซุป เชียงใหม่ ที่ 12 พฤษภาคม 2567, เวลา 21:04:01 น.
พิชิต เขาซีซาน - ลอดประตูมังกร ที่ "คุนหมิง" (https://mgronline.com/travel/detail/9510000026322)
 บทความจาก  (https://www.facebook.com/soupchiangmai/) :   (https://www.facebook.com/soupvan) mgronline.com (https://mgronline.com/travel) :  จุชดานิน

[attach=1]

           จากการท่องวัดในเมืองอันยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในนครคุนหมิง พร้อมชมและขอพรพระพุทธชินราชอันศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งประดิษฐานอย่างสง่างามในจีนกันแล้ว พวกเราไปต่อวันอันศักดิ์สิทธิ์กันที่ "เขาซีซาน" โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อไปพิชิตเขาซีซาน และ "ลอดประตูมังกร" ซึ่งถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีน

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872702.JPEG)

           ไกด์ชาวจีนสปีคไทยของเราเล่าว่า คนจีนจะกล่าวว่ามาถึงคุนหมิงต้องไปลอดประตูมังกร เมื่อลอดแล้วฐานะจะเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยเท่า [/b] และคนจีนตั้งแต่โบราณจะเลียนแบบปลาเพราะมีเรื่องเล่ากันมาว่า ในสมัยก่อนแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด คือ แม่น้ำเหลือง จะมีปลาหลีหือ ซึ่งเป็นปลาประจำชาติของจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ครั้งหนึ่งเกิดน้ำท่วมทำให้ปลาไหลไปอยู่ตามแม่น้ำสายอื่น

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872703.JPEG)

           เมื่อปลาไปอยู่แม่น้ำอื่น ปลาไม่ชินกับคุณภาพน้ำจึงมีความพยายามว่ายทวนน้ำเพื่อกลับไปอยู่ในแม่น้ำเหลือง ข่าวนี้ก็ไปเข้าหูเง็กเซียนฮ่องเต้ ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดในลัทธิเต๋า ท่านก็เลยเห็นใจกับความพยายามของปลา ท่านเลยสั่งให้ไปสร้างประตูตรงแม่น้ำเหลือง ถ้าปลาตัวไหนกระโดดข้ามประตูได้ ท่านก็จะให้เป็นมังกร ถ้าปลาก็ตัวไหนกระโดดข้ามไม่ได้ ก็ต้องไปอยู่ในแม่น้ำเหลือง ปลาก็เลยมีความพยายามไปกระโดดข้ามประตูเพื่อเป็นมังกร เลื่อนจากปลาเป็นมังกรถือว่าฐานะของปลาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872704.JPEG)

           คนจีนจึงเลียนแบบปลา เมื่อมีความพยายามในการศึกษาก็จะได้เป็นจอหงวน เมื่อเป็นจอหงวนฐานะก็จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ดังนั้นประตูมังกรเหมือนเป็นการสอนคนจีนมาก คือเมื่อเรามีความพยายามก็จะประสบความสำเร็จ
          ในการจะลอดประตูมังกรได้นั้น พวกเราจึงต้องพิชิตเขาซีซานให้ได้ก่อน โดยการเดินขึ้นบันไดนิดหน่อยแค่ 300 กว่าขั้นเท่านั้น โอ้โห... ฟังแล้วฉันถึงกับหมดแรง ก็อากาศหนาวซะขนาดนี้ แล้วยังจะต้องเดินขึ้นบันไดสูงที่มีลมโชยอีก อากาศก็เบาบาง โอ้... สารพัดความท้อแท้ แต่ไม่ได้... ฉันต้องเลียนแบบปลา ขนาดปลายังว่ายทวนน้ำไปถึงประตูมังกรได้แล้วฉันเป็นใครทำไมจะไต่บันได 300 กว่าขั้น ไปลอดประตูมังกรไม่ได้

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872705.JPEG)

           เพื่อไม่ให้เป็นการอายปลา ฉันและคณะจึงพากันฝ่าลมหนาว ปากสั่นพะงาบๆ เพื่อไปพิชิตเขาซีซาน โดยจุดเริ่มต้นพวกเราจะเดินขึ้นบันไดซึ่งสลักหินบนเขาเป็นบันไดด้วยฝีมือคนล้วนๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อไปยังจุดพักขาที่หนึ่ง ตรงจุดนี้จะมี [color=navy "ศาลเจ้าหวางหลินกวง" [/color] ซึ่งเกี่ยวกับข้าราชการ และในศาสนาเต๋าท่านเป็นผู้ปกปักรักษาอีกด้วย
          โดยท่านจะดูว่าคนที่มาวัดจะมาทำบุญหรือมาทำลาย เพราะตรงหน้ากระจกของท่านสามารถส่องมองได้ว่าคนคนนั้นเป็นปีศาจหรือเป็นคนที่มาทำบุญ ซึ่งระหว่างทางด้านหน้าศาลเจ้านั้นมีสะพาน หากจะรู้ได้โดยการมองผ่านกระจกคล้ายกระจกจราจรที่มักจะติดอยู่ตรงทางสามแยกที่มองไม่เห็นอีกด้านหนึ่ง ซึ่งฉันก็ไม่แน่ใจว่ากระจกนี้เปรียบกับกระจกที่ท่านใช้ส่องคนที่มายังวัดหรือไม่

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872706.JPEG)

           ข้างๆ ศาลเจ้าจะมีรูปที่แกะสลักบนหินเป็น "เทพเจ้าแห่งโชคลาภ" ไกด์บอกให้เอามือลูบที่ก้อนทองที่ท่านถือไว้ แล้วนำมาใส่กระเป๋าของเรา เหมือนกับขอเงิน ขอทอง กับท่าน ขอให้ร่ำรวย ผู้ที่ทำการค้าก็จะมาไหว้ที่ท่าน และก็เป็นที่น่าตกใจจริงๆ ที่คณะของเราทุกคนต่างยอมปีนป่ายอย่างยากเย็นเนื่องจากหินนั้นลื่นเป็นมันเงา เพื่อขึ้นไปจับก้อนทอง แปลว่าหวังจะรวยกันทุกคนเป็นแน่
          เมื่อปีนป่ายกันจนครบแล้ว ก็ขึ้นบันไดต่อไปยังจุดพักจุดที่สองเป็น "ศาลเจ้าตั่วเล่าเอี้ย" หรือ "ศาลเจ้าพ่อเสือ" คือเทพเจ้าที่กราบไหว้เพื่อให้อายุยืนสุขภาพแข็งแรง และพ้นภัยพิบัตินานา โดยเฉพาะถ้าได้ลูบหัวเต่า และ ลูบตัวงูที่พันเต่าอยู่ตรงหน้าศาลเจ้า ซึ่งเต่ากับงูนี้ถือเป็นกระเพาะ กับลำไส้ของท่านตั่วเล่าเอี้ย
          ตอนที่ท่านฝึกเป็นเซียนนั้น เพียรอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ท่านจึงได้ตั้งสมาธิแล้วใช้กระบี่ผ่าท้องเพื่อเอากระเพาะกับลำไส้ออกมา ไม่ดื่มน้ำไม่กินข้าว เมื่อกายที่ท่านได้ทำบาปมาร่วงหลุดออกไปตัวก็เบาขึ้น และก็สำเร็จเป็นเซียนในเวลาต่อมา หลังจากที่ท่านได้เป็นเซียนแล้วกระเพาะกับลำไส้ที่วางตรงหน้าท่านก็กลายเป็นเต่า และงู คนในลัทธิเต๋าจึงไม่กินงูกับเต่า ไกด์ยังแนะอีกว่า สำหรับผู้ชายไม่ต้องไปลูบหัวงูแล้วนะ... เพราะมีกันอยู่แล้ว ก็ฮากันไป
         
          จากจุดที่สองเราขึ้นบันไดต่อไปยังจุดพักที่สาม ตรงจุดนี้จะมีบ่อน้ำเล็กๆ เรียกว่า "บ่อน้ำวัวกตัญญู" ที่บ่อแห่งนี้จะมีวัวอยู่ด้วย เพราะวัวตัวนี้เป็นที่มาของบ่อน้ำ มีเรื่องเล่าว่า วัวตัวนี้กตัญญูกับเจ้าของมาก เพื่อที่จะให้เจ้าของได้ดื่มน้ำที่บนภูเขาซีซาน เขาได้ใช้เขาเจาะหน้าผาตรงหินนี้ได้เป็นสายน้ำ และเป็นบ่อน้ำเล็กๆ ให้เจ้าของของเขาที่ชื่อเจ้าอู่ได้กิน เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่สั่งสอนคนเราว่าอย่าไปฆ่าสัตว์เพราะเขามีความกตัญญูต่อเจ้าของอย่างจริงใจ

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872707.JPEG)

           จุดต่อมามีศาลที่เรียกว่า "ศาลเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตร" หรือ "เจ้าแม่กวนอิมส่งลูก" ถ้าใครแต่งงานยังไม่มีบุตรก็ไปขอกับท่านได้ จากจุดนี้เราไต่บันไดไปต่อยังจุดสุดท้ายเป้าหมายปลายทางของเรา คือ "ประตูมังกร" หรือ "ศาลเจ้ามังกร" หรือ "ไข่มังกร" เพื่ออธิฐานขอโชคลาภ มีสองวิธี คือ ใช้มือขวาไปจับแก้วมังกรแล้วอธิฐาน อีกวิธีหนึ่งสำหรับคนที่มีความสามารถซักหน่อย ใช้มือซ้ายจับแก้วมังกร มือขวาจับหางปลา ซึ่งก็คือ ปลาที่กระโดดข้ามประตูแล้วกลายเป็นมังกร ในการลูบหรือจับปลาคือขอให้เหลือกินเหลือใช้
          ซึ่งกว่าพวกเราจะไต่บันไดมาถึงจุดนี้ได้ก็เล่นเอาเหนื่อยใช่เล่น ทางที่เราผ่านขึ้นมามีลักษณะเป็นอุโมงค์บ้าง ทางแคบบ้าง ชันบ้าง ลื่นบ้าง เพราะเป็นของเดิม ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ประมาณปี ค.ศ.1781 สร้างด้วยมือคนล้วนๆ ใช้เวลาทั้งหมด 72 ปี กว่าจะสร้างเสร็จ ฉันต้องขอนับถือและขอบคุณผู้คนเหล่านั้นไว้ ณ ที่นี่ด้วย... คารวะ

          จากนั้นแล้วก็ไปไหว้เจ้าตรงข้างๆ ประตูมังกรมี "ศาลเจ้ากุยซิน" ท่านกุยซินจะอยู่ในลักษณะถือพู่กัน แล้วเหยียบหัวเต่ายักษ์ ท่านกุยซินถือเป็นเทพเกี่ยวกับการศึกษา คนที่จะได้เป็นจอหงวนต้องไปผ่านปลายพู่กันของท่านก่อน นอกจากนี้ข้างๆ ยังมีเทพเจ้าอีกสององค์ คือ "กวนอู" เกี่ยวกับการค้าขาย ซ้ายมือ คือ "หูซาน" เกี่ยวกับความรู้ นักเรียนนักศึกษาจะชอบมาไหว้กับท่าน

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872708.JPEG)

           เมื่อขอพรกันแล้ว ก็ต้องชมความสวยงามของ "ทะเลสาบเตียนฉือ" ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนาน อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,886.5 เมตร แต่ก่อนทะเลสาบแห่งนี้กว้างขวางถึง 500 ลี้ แต่ตอนนี้เหลือกว้างแค่ประมาณ 300 กว่าตารางกิโลเมตรเท่านั้น
          ไกด์บอกกับพวกเราว่า แต่ก่อนทะเลสาบเตียนฉือนี้ ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยมากจนถูกขนานนามว่า "ไข่มุกทอแสงแห่งที่ราบสูง" ด้วยความงดงามทำให้ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจนไปเข้าหูพระนางซูสีไทเฮา แห่งราชวงศ์ชิง พระนางก็อยากมาดูทะเลสาบแห่งนี้มาก แต่ไม่สามารถมาถึงได้ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นแมนจู กลัวว่าหากเดินทางไปยังทะเลสาบจะถูกชนกลุ่มน้อยทำร้าย

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872709.JPEG)

 เมื่อถึงวันฉลองวันเกิดพระนางจึงสั่งให้คนไปเอาแบบของทะเลสาบเตียนฉือ แล้วไปขุดสร้างเลียนแบบในอุทยานสวนอี้เหอหยวน ภายในพระราชวังฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่ง แล้วเรียกว่า "ทะเลสาบคุนหมิง" หากใครที่เคยได้ไปเยือนมาแล้วทั้งสองแห่งก็คงจะรู้กันดี

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872710.JPEG)

           เมื่อได้ขึ้นมาถึงจุดบนนี้ก็ต้องขอบอกเลยว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่ได้ขึ้นมา นอกจากจะได้ขอพรอันเป็นมงคลแล้วยังได้ชมทะเลสาบ และเมืองคุนหมิงในมุมสูงกว้างสุดลูกหูลูกตาช่างสวยงามจริงๆ  บรรยากาศชวนให้พวกเราโพสท่าถ่ายรูปกันอยู่นานสองนานจนหนำใจ จากนั้นก็ต้องบอกว่า มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย เพราะทางขึ้นเขาซีซานแห่งนี้มีอยู่ทางเดียว และสำหรับมาเหยียบแดนคุนหมิงในครั้งนี้ของฉัน การได้ไปเที่ยววัดดัง 2 แห่ง ในต่างแดนนั้นถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์แปลกใหม่ ที่คุ้มค่าการเที่ยวด้วยประการทั้งปวง...

(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000002872711.JPEG)

          "คุนหมิง" เป็นเมืองเอกในมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีภูเขาล้อมรอบตัวเมือง 3 ด้าน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น คือวัดวาอาราม และ ป่าหินอันโด่งดัง สำหรับอัตราค่าเงินในเมืองจีนใช้เงินสกุลหยวน โดย 1 หยวนประมาณ 5 บาท เวลาที่จีนเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง



พิชิตเขาซีซาน - ลอดประตูมังกร ที่ "คุนหมิง"  (https://mgronline.com/travel/detail/9510000026322)
 บทความจาก  (https://www.facebook.com/soupchiangmai/) :   (https://www.facebook.com/soupvan) mgronline.com (https://mgronline.com/travel) :  จุชดานิน