15 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2565 เที่ยวธรรมชาติสวยแบบไม่ต้องกลัวฝน

[ลุงซุป เชียงใหม่]

15 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2565 เที่ยวธรรมชาติสวยแบบไม่ต้องกลัวฝน

บทความจาก :  kapook.com

พาเที่ยวทั่วไทยไปในช่วงหน้าฝน กับ 15 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2565 ฝนตกแล้วก็ยังไปเที่ยวได้ แถมธรรมชาติก็ยังสวยและชุ่มฉ่ำกว่าเดิมด้วย

          ถ้าจะกล่าวถึงเดือนกรกฎาคม คงเป็นเดือนที่เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว บรรยากาศหลายที่เต็มไปด้วยความชุ่มชื่น แถมในปี 2565 มีวันหยุดยาวต่อเนื่องทั้งในช่วงกลางเดือน ตรงกับวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา และในช่วงปลายเดือนที่เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 อีกด้วย มีโอกาสดีๆ แบบนี้จะมัวรอช้าเพราะกลัวฝนอยู่ไม่ได้แล้ว รีบจัดแผนท่องเที่ยวเด็ดๆ กันดีกว่า เรามีที่เที่ยวและงานเทศกาลในเดือนกรกฎาคมที่สวยงามและน่าตามไปเที่ยวมาฝากกัน ดังนี้


1.  อำเภอแม่แจ่ม เชียงใหม่

          อำเภอแม่แจ่ม อำเภอเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเชียงใหม่ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาหลังดอยอินทนนท์ มีธรรมชาติป่าเขาที่สวยงาม ท่ามกลางวิถีชีวิตของผู้คนที่ดำเนินไปแบบเรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ประจำเดือนกรกฎาคมที่โด่งดัง และเป็นเป้าหมายของสายธรรมชาติ คือ นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม นาข้าวจะกลายเป็นสีเขียว ต้นข้าวเริ่มโตชูช่อยาวสวยงามพร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามของนาที่เรียงตัวสวยเป็นขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมาตามภูเขาสูง รายล้อมไปด้วยวิวของภูเขาน้อยใหญ่และทะเลหมอก

          อีกทั้งยังจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น - ลง ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบและเป็นธรรมชาติสุดๆ ด้วย นอกจากนาขั้นบันไดสีเขียวขจีแล้ว อำเภอแม่แจ่มยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น ดอยม่อนหมาก จุดชมวิวทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ยามเช้า, วัดกองกาน ศูนย์รวมศรัทธาของชาวแม่แจ่ม, หมู่บ้านทอผ้าตีนจก, น้ำออกฮู, สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง, นาขั้นบันไดบ้านตีนผา, วัดป่าแดด, วัดยางหลวง, วัดพุทธเอ้น, หมู่บ้านหัตถกรรมผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม, และ นาขั้นบันไดบ้านกองกาน เป็นต้น

12 ที่เที่ยวแม่แจ่ม ยลวิถีชีวิต ตระการตาธรรมชาติแห่งขุนเขา

2.  หมู่บ้านผาบ่อง แม่ฮ่องสอน

          หมู่บ้านผาบ่อง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 - 20 นาที เป็นชุมชนที่มีชาวไต หรือไทใหญ่ และชาวปกาเกอะญออาศัยอยู่รวมกัน โดยมีความมุ่งหวังที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด วิถีวัฒนธรรม นำชุมชนพัฒนาอย่างยั่งยืน และไฮไลต์ของที่นี่คือ สะพานข้าว 9 เพื่อสุข เป็นสะพานไม้ทอดยาวกลางทุ่งนาที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นกันเพลินๆ รับลมเย็นๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้ หากใครอยากสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนอย่างใกล้ชิดก็สามารถพักค้างแรมที่โฮมสเตย์ภายในหมู่บ้านได้ด้วย นอกจากที่พักแล้วยังมี กาดซอกจ่าผาบ่อง ซึ่งเป็นตลาดขายอาหาร นักท่องเที่ยวสามารถมาแวะซื้อกับข้าว ขนมไทใหญ่ ผัก และผลไม้ ได้ที่ตลาดแห่งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ชุมชนผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

3.  หมู่บ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือ น่าน

          ในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ หนึ่งในจุดหมายที่หลายคนอยากไปเที่ยวสักครั้งคงหนีไม่พ้น หมู่บ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือ น่าน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ด้านบนของบ่อเกลือโบราณ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติทั้ง ป่าเขา ลำธาร และวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ในหมู่บ้านมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่สวยๆ และที่พักไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว โดยมีทั้งที่พักวิวภูเขา หรือใครอยากจะชิลๆ นอนฟังเสียงน้ำไหลก็มีที่พักริมลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านให้เลือกพักผ่อนเช่นกัน อยากได้ฟีลแบบไหนก็เลือกกันได้เลย

          นอกจากนั่งเล่นนอนชิลในหมู่บ้านแล้ว ที่หมู่บ้านสะปันยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่อยากจะแนะนำให้ไปเที่ยวกันคือ บริเวณจุดชมวิวลานกางเต็นท์หยุดเวลาคาเฟ่ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของหมู่บ้านสะปัน ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวขจี และน้ำตกสะปัน น้ำตกใหญ่ประจำหมู่บ้าน ที่ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 300 เมตร เพื่อไปที่ต้นทางน้ำตก ซึ่งบอกเลยว่าสวยคุ้มค่าแน่นอน ยิ่งในช่วงหน้าฝนนี้เป็นช่วงน้ำหลากจะมีน้ำมาก ทำให้น้ำตกยิ่งสวยอลังการ ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม

4.  ทุ่งดอกเทียนปีกผีเสื้อ อำเภออุ้มผาง ตาก

          พาไปชมความงามของดอกไม้สีสวยที่ ทุ่งดอกเทียนปีกผีเสื้อ จังหวัดตาก ตั้งอยู่ที่ ดอยหัวหมด อำเภออุ้มผาง โดยดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ละม้ายคล้ายรูปหัวใจ ตัวดอกจะมีสีชมพูอมม่วง ส่วนกลีบดอกจะดูคล้ายกับปีกผีเสื้อที่กำลังบิน พร้อมด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ เบ่งบานกระจายเต็มลานหิน เติบโตได้ดีบนหินปูนที่เป็นลานโล่ง จัดเป็นดอกไม้ท้องถิ่น พบเฉพาะจังหวัดตาก และกาญจนบุรี ซึ่งในหนึ่งปีจะมีให้ชมช่วงเดียวเท่านั้นคือ ช่วงหน้าฝน ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี

          เมื่อถึงช่วงที่ดอกเทียนปีกผีเสื้อเบ่งบาน บนยอดดอยหัวหมดก็จะเต็มไปด้วยสีชมพูทั่วบริเวณ จนชาวบ้านเรียกดอยแห่งนี้ว่า ดอยชมพู สำหรับใครที่วางแผนเที่ยวหน้าฝน หรือกำลังจะไปเที่ยวที่จังหวัดตาก ก็อย่าลืมขึ้นดอยไปชมความสวยงามของทุ่งดอกเทียนปีกผีเสื้อกัน โดยสามารถสอบถามช่วงเวลาในการบานของดอกไม้ป่าจากคนในพื้นที่ก่อน หรือสอบถามรายละเอียดที่ ททท.สำนักงานตาก หรือโทร. 0-5551-4341-3

5.  เทศกาลผีตาโขน 2565 อำเภอด่านซ้าย เลย

          นับเป็นหนึ่งงานประเพณียิ่งใหญ่ของ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศไปเที่ยวชมความตระการตาของบรรดาหุ่นผีตาโขนหลากชนิดแตกต่างกัน และขบวนแห่ พร้อมกิจกรรมต่างๆ ที่ในแต่ละปีจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อมอบความสุขและความประทับใจให้กับผู้ที่มาเที่ยวชมงาน ปกติแล้วงานเทศกาลผีตาโขนมักจะจัดประมาณกลางเดือนมิถุนายนของทุกปี แต่ในปี 2565 มีข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานเลย : TAT Loei Office ได้ประกาศเกี่ยวกับการจัดงานเทศกาลผีตาโขน ระหว่างวันที่ 1 - 3 กรกฎาคม 2565 (และชมขบวนแห่ผีตาโขนวันที่ 2 กรกฎคาคม 2565) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานเลย : TAT Loei Office หรือโทร. 0-4281-2812

งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน 2565 งานบุญยิ่งใหญ่แห่งแดนอีสาน

6.  น้ำตกห้วยหลวง อำเภอนาจะหลวย อุบลราชธานี

          น้ำตกห้วยหลวง คนในท้องถิ่นเรียกกันว่า น้ำตกบักเตว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานอุทยานแห่งชาติภูจอง - นายอย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่เกิดจากลำธารห้วยหลวง มีความสูงประมาณ 45 เมตร ไหลผ่านหน้าผาลงสู่เบื้องล่าง มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ พื้นน้ำเป็นสีเขียวมรกตและมีหาดทรายขาวสะอาด เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ ด้านบนมีจุดชมทิวทัศน์และถ่ายภาพ ด้านล่างมีบันไดสำหรับขึ้น - ลง จำนวน 272 ชั้น จัดว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอีสานใต้ มีน้ำตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะในการมาเที่ยวคือ ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย Phu Chong Na Yoi National Park หรือโทร. 06-4232-5741

7.  ประเพณีแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี

          ชวนไปชมความงดงามอลังการของประติมากรรมเทียนกับ ประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี “121 ปี ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา” ประจำปี 2565 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 17 กรกฎาคม 2565 ชมพิธีปล่อยขบวนต้นเทียน ได้แก่ ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน ขบวนต้นเทียน ประเภทแกะสลัก ประเภทติดพิมพ์ และขบวนเทียนโบราณ โดยจะมีขบวนแห่ต้นเทียนและขบวนฟ้อนรำจากคุ้มวัดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการแสดงแสง เสียง ขบวนแห่ภาคกลางคืน และกิจกรรมเยือนชุมชนคนทำเทียน เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี หรือโทร. 0-4534-4583-4

ภาพจาก Daimond Shutter / Shutterstock.com

8.  วังน้ำเขียว นครราชสีมา

          หน้าฝนแล้วชวนทุกคนไปรับโอโซนบริสุทธิ์ ชมวิวภูเขาและน้ำตกสวยๆ ชิลกับสายหมอกหยอกเย้า และลิ้มรสผลไม้อร่อยๆ กันที่ วังน้ำเขียว กันดีกว่า โดยวังน้ำเขียวจัดเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติสุดฮิตอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่ง และยังเป็นแหล่งทำการเกษตรที่สำคัญ โดยเฉพาะไร่ฟาร์มแบบออร์แกนิกทั้งหลาย นอกจากนี้ที่วังน้ำเขียวก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแบบให้บริการอยู่ ตั้งแต่ร้านกาแฟริมทะเลสาบสุดชิค เส้นทางปั่นจักรยานริมทะเลสาบ และวัดสวยสุดอลังการ บอกเลยแต่ละที่นั้นมีบรรยากาศดีสุด ๆ แถมยังเป็นจุดที่เต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปเช็กอิน ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพและความประทับใจได้อย่างเต็มที่

          ตัวอย่างที่เที่ยวในวังน้ำเขียว ได้แก่ โรงคั่วกาแฟ จิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวสบายตา ในบรรยากาศสไตล์โรงนา เพิ่มความชิคด้วยการนำเอาวัสดุธรรมชาติและของใช้ประจำท้องถิ่นมาใส่กลายเป็นดีเทลเก๋ๆ แถมมีมุมให้นั่งชิลถ่ายรูปเยอะมาก อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เป็นทั้งเส้นทางวิ่ง + ปั่นจักรยานริมอ่างเก็บน้ำ สำหรับคนที่ชอบอากาศบริสุทธิ์ ทิวทัศน์สวยงาม และปั่นจักรยานได้แบบปลอดภัยสบายใจ และสวนดอกไม้ ฟลอร่า ปาร์ค สวนดอกไม้นานาพรรณกว่า 100 ไร่ แหล่งรวมความสวยงามที่เชิญชวนให้คนชอบธรรมชาติและการถ่ายภาพไปเยี่ยมชม เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วังน้ำเขียว หรือโทร. 08-5249-9166

ภาพจาก TaklongObchoey / Shutterstock.com

15 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2565 เที่ยวธรรมชาติสวยแบบไม่ต้องกลัวฝน

บทความจาก :  kapook.com

 

[ลุงซุป เชียงใหม่]

15 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2565 เที่ยวธรรมชาติสวยแบบไม่ต้องกลัวฝน

บทความจาก :  kapook.com

9.  น้ำตกคลองลาน กำแพงเพชร

          น้ำตกคลองลาน จัดเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของจังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติคลองลาน มีด้วยกันทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นจะมีแอ่งน้ำและความสูงที่แตกต่างกันไป โดยสายน้ำตกเกิดจากต้นน้ำบนยอดเขาคลองลาน ไหลจากลำห้วยต่างๆ ประมาณ 5 สาย ตกลงสู่แอ่งน้ำกลางหุบเขา เกิดเป็นวังน้ำลึกและลำน้ำยาวประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วไหลผ่านโตรกผาสูงราว 100 เมตร ก่อนตกลงแอ่งด้านล่าง ซึ่งสามารถลงเล่นน้ำได้ โดยไฮไลต์ของน้ำตกแห่งนี้จะอยู่ที่ชั้น 3 เพราะน้ำตกจะแยกเป็น 2 สาย ก่อนไหลลงสู่แอ่งน้ำกว้าง เหมาะกับการเล่นน้ำตกหรือจะนั่งปิกนิกรอบน้ำตกก็สดชื่นไม่แพ้กัน นอกจากน้ำตกสวยๆ แล้ว บริเวณใกล้ๆ ยังมีสถานที่ไว้สำหรับกางเต็นท์พักแรมให้บริการอีกด้วย รวมถึงยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณน้ำตก เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ให้กับนักเดินป่าที่ชอบลุยไปเที่ยวชมธรรมชาติกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติคลองลาน - Khlong Lan National Park หรือโทร. 08-8407-9915

10.  ดูดอกเปราะภูสีขาว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

          อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวหน้าฝนที่ไม่ใกล้จากกรุงเทพฯ เท่าไร กับอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ที่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูที่สายฝนโปรยปราย ดอกไม้ใบหญ้าก็จะแข่งกันชูยอดผลิใบ ออกดอกมาอวดความสวยงามและสีสันตระการตา โดยเฉพาะดอกไม้ป่าที่หาดูได้ยากอย่าง ดอกเปราะสีขาว ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เป็นพืชในตระกูลขิงและข่า ซึ่งมีเหง้าอยู่ใต้ดิน มีลักษณะคล้ายกับดอกกล้วยไม้ สีขาว มีเกสรสีเหลือง ตัดกับสีเขียวเข้มของลำต้นอย่างโดดเด่น ถือเป็นเจ้าหญิงประจำฤดูฝนของภูหินร่องกล้า ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่าง จึงทำให้เปราะภูที่นี่มีสีขาวอันเป็นความพิเศษที่แตกต่างจากดอกเปราะภูทั่วไปที่มีสีชมพู

          นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความงามของดอกเปราะภูสีขาวได้เพียงที่เดียวที่ลานหินปุ่ม ณ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ได้เฉพาะในช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมเท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า - Phu Hin Rong Kla National Park หรือโทร. 08-1596-5977

11.  หมู่บ้านอีต่อง อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี

          ใครที่เป็นคนรักหมอก ชอบความเย็นสบายของสายหมอก ต้องไม่พลาดที่นี่เลยกับ หมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่สุดชายแดนไทย - เมียนมา บรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็น เหมาะแก่การพักผ่อน ยิ่งในช่วงหน้าฝน ทั่วทั้งหมู่บ้านจะถูกปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกขาวโพลน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมและสัมผัสความสวยงามนี้

          ปัจจุบันหมู่บ้านอีต่องมีร้านอาหาร โฮมสเตย์ เกสต์เฮ้าส์ ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟน่ารักๆ ถนนคนเดินในวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย รวมถึงสายผจญภัยทั้งหลายที่ต้องการมาท้าทายความสามารถด้วยการปีนเขาช้างเผือก ก็ต้องมาเริ่มต้นเดินเท้าจากหมู่บ้านอีต่องแห่งนี้ด้วย

ภาพจาก YuRi Photolife / Shutterstock.com

12.  ประเพณีตักบาตรดอกไม้ อำเภอพระพุทธบาท สระบุรี

          อีกหนึ่งงานบุญที่จะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมของทุกปี นั่นคือ งานประเพณีตักบาตรดอกไม้ หรือดอกเข้าพรรษา ของอำเภอพระพุทธบาท ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาช้านาน โดยถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หรือวันเข้าพรรษา ของทุกปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอำเภอพุทธบาทจะนำดอกไม้ชนิดหนึ่ง เรียกกันว่า ดอกเข้าพรรษา หรือดอกหงส์เหิน มาใช้ตักบาตรพระสงฆ์ เพราะลักษณะของดอกและเกสรจะคล้ายกับตัวหงส์ที่กำลังเหินบินด้วยท่วงท่าลีลาอันสง่างาม เมื่อพระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตแล้วก็จะนำไปสักการะรอยพระพุทธบาท อันจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

          ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา นับเป็นประเพณีสำคัญที่อยู่คู่กับวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเป็นประเพณีระดับประเทศ จนได้ชื่อว่าเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก โดยในปี 2565 จะมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 12 - 14 กรกฎาคม 2565 ณ บริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท สระบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี

ภาพจาก Em7 / Shutterstock.com

13.  ล่องแก่งลำภาชี จังหวัดราชบุรี

          ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สำหรับสายแอดเวนเจอร์ทั้งหลาย ชวนไปสนุกกับการพายเรือคายัก ล่องแก่งไปในลำน้ำภาชี แม่น้ำเส้นสำคัญของจังหวัดราชบุรี ที่คนนิยมลงเล่นและทำกิจกรรมตลอดทั้งสาย ชมบรรยากาศสวย ๆ ของสองฟากฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและนกนานาชนิด ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำใสไหลเย็น พร้อมสนุกตื่นเต้นเมื่อได้ล่องตะลุยแก่งหิน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เพลิดเพลินและสนุกมาก เหมาะกับการมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ทัศนา คายัค 0892089502 หรือโทร. 08-5291-0393

14.  ดินแดนหิ่งห้อย จังหวัดปราจีนบุรี

          เพิ่มความโรแมนติกชวนฝันให้กับช่วงหน้าฝน ลองชวนคนรัก ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ไปดูดวงดาวบนพื้นดินที่ส่องแสงสว่างเล็กๆ กันที่ ดินแดนหิ่งห้อย แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศตั้งอยู่ภายในกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายพรหมโยธี ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมืองปราจีนบุรี โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปที่ยวชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ใหญ่น้อยและบรรดาหิ่งห้อยนับแสนตัวที่โบยบินเปล่งแสงสว่างไสวยามค่ำคืน ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปดูหิ่งห้อยนั้น จะมีให้ชมเพียงแค่ช่วงหน้าฝน หรือในช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคมของทุกปี ตั้งแต่เวลา 18.30 - 21.00 น. ของทุกวันเท่านั้น

          สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวชมดูหิ่งห้อย มีข้อบังคับที่ห้ามทำอยู่คือ ห้ามใส่น้ำหอม ห้ามทายากันยุง หรือทาพวกสเปรย์กันยุง เป็นอันขาด ห้ามพกไฟฉายไปส่องหิ่งห้อย ห้ามเปิดไฟหน้ารถหรือเปิดไฟเพื่อส่องไปยังหิ่งห้อย เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลทำให้จำนวนหิ่งห้อยลดลง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ดินแดนหิ่งห้อย ปราจีนฯ หรือโทร. 0-3757-0030

15.  ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          พาทุกคนลงใต้ แต่ไม่ได้ชวนลงทะเล เพราะในเดือนกรกฎาคมนี้ ทะเลส่วนใหญ่มักจะโดนมรสุม ฝนตก ไม่สามารถลงเล่นได้ แต่ภาคใต้ของไทยเราไม่ได้มีดีแต่ทะเลนะ เพราะยังมีแหล่งน้ำจืดสวย ๆ อย่างบ่อน้ำผุด ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด ซึ่งถือเป็น Unseen อย่างหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเลยก็ว่าได้ กับพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก มีตาน้ำ หรือน้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินไหลลอดใต้ภูเขาผ่านออกมา ซึ่งเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์ ไหลมารวมกันเป็นบ่อน้ำจืดสีฟ้าอมเขียวใสราวกับกระจก ลึกประมาณ 1 เมตร พื้นของบ่อน้ำจะเป็นพื้นทรายตะกอนหินปูน จึงทำให้น้ำไม่ขุ่น มีความใสอยู่ตลอด

          สำหรับป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมและสามารถลงเล่นน้ำได้ โดยที่ทางชุมชนได้ทำแนวกั้นแบ่งบ่อน้ำไว้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ห้ามลงเล่น เพราะเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจะนำน้ำส่วนนี้ไปใช้ในการดื่มกินและประกอบพิธีกรรมสำคัญต่างๆ และส่วนที่ชุมชนกั้นขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ แต่มีกฎระเบียบและข้อบังคับ เช่น ห้ามทำลายทรัพยากรธรรมชาติทุกชนิด ห้ามนำภาชนะที่ก่อให้เกิดขยะและสิ่งปฏิกูลทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นขวดพลาสติก ถุงพลาสติก หรือกระดาษชำระ เข้าไปยังป่าต้นน้ำ ห้ามใช้สบู่ ยาสระผม ในพื้นที่ของป่าต้นน้ำ เพราะจะเป็นการทำลายระบบนิเวศของน้ำในบ่อน้ำผุด และห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปรับประทานที่ป่าต้นน้ำ เป็นต้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด หรือโทร. 08-4220-8745

แม้ว่าฝนจะโปรยปรายในเดือนกรกฎาคม แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติจะสวยงามและอุดมสมบูรณ์ที่สุด รู้อย่างนี้แล้วอย่ามัวแต่กลัวฝนอยู่เลย รีบออกไปเที่ยวเมืองไทยกันเถอะ

ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก ชุมชนผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ,  ททท.สำนักงานตาก ,  เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานเลย : TAT Loei Office ,    เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย Phu Chong Na Yoi National Park ,  เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ,  เฟซบุ๊ก วังน้ำเขียว ,  เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติคลองลาน - Khlong Lan National Park ,  เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า - Phu Hin Rong Kla National Park ,  เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี ,  เฟซบุ๊ก ทัศนา คายัค 0892089502 ,  เฟซบุ๊ก ดินแดนหิ่งห้อย ปราจีนฯ ,  เฟซบุ๊ก ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด

15 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2565 เที่ยวธรรมชาติสวยแบบไม่ต้องกลัวฝน

บทความจาก :  kapook.com