Share:
เปิดมาตรการพักชำระหนี้บ้าน ระยะที่ 2 จากธนาคารต่างๆ ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โควิด 19 ระลอกใหม่ มีที่ไหนบ้าง แต่ละที่มีเงื่อนไขอย่างไร ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการยังไง มาดูกันเลย
หลัง COVID-19 มีการระบาดระลอกใหม่ในหลายพื้นที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ ระยะที่ 2 เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในส่วนของสินเชื่อบ้านนั้นจากเดิมที่จำกัดวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ปรับใหม่เป็นไม่จำกัดวงเงิน เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือน หรือเลือกชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสม หรือลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้ และขยายเวลายื่นขอรับความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการทางการเงินได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวมมาตรการพักชำระหนี้บ้านจากธนาคารต่างๆ มาให้แล้วค่ะ 1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ธอส. ได้ออก 4 มาตรการพักชำระหนี้บ้าน ช่วยลูกค้าทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากโควิด 19 ผ่าน "โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ปี 2564" มีรายละเอียดดังนี้ มาตรการที่ 9 : สำหรับลูกค้าที่เคยเข้าร่วมหรืออยู่ระหว่างใช้มาตรการช่วยเหลือฯ ของ ธอส. - สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ ไม่อยู่ระหว่างการประนอมหนี้ ลดเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวด ผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2564) วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 15 - 29 มกราคม 2564 มาตรการที่ 10 : สำหรับลูกหนี้สถานะ NPL และลูกหนี้สถานะ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ - ลดเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2564) วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม - 26 กุมภาพันธ์ 2564 มาตรการที่ 11 : สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือฯ ของ ธอส. - สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ ไม่อยู่ระหว่างการประนอมหนี้ ลดเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลา 6 เดือน (กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2564) วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 26 กุมภาพันธ์ 2564 มาตรการที่ 12 : สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ SMEs สินเชื่อประเภทแฟลต 1. ลดเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เหลือ 25% หรือ 50% หรือ 70% ของเงินงวดผ่อนชำระในปัจจุบันเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน หรือไม่เกินเดือนมิถุนายน 2564 2. พักชำระหนี้ถึงเดือนมิถุนายน 2564 ในกรณีที่ได้รับผลกระทบทำให้รายได้ไม่เพียงพอในการชำระหนี้ วิธีลงทะเบียน : ติดต่อยื่นคำขอเข้ามาตรการที่ 12 ได้ที่สาขาของธนาคารออมสินทั่วประเทศ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564 ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ website : www.ghbank.co.th facebook : ธนาคารอาคารสงเคราะห์ Call Center : 0-2645-9000
2. ธนาคารกรุงไทย
ในส่วนของธนาคารกรุงไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2564 ให้กับลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ประกอบด้วย สินเชื่อบ้าน สินเชื่อ Home for Cash และสินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน โดยให้สามารถพักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) นาน 3 เดือน หรือลดค่างวดโดยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ คุณสมบัติผู้ที่เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 - ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด 19 เช่น ธุรกิจสายการบิน, ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจที่ปิดกิจการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ เป็นต้น - ลูกค้าที่มีสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคาร - ลูกค้าที่มีประวัติการชำระปกติ ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563 หมายเหตุ : การพิจารณาเข้าร่วมมาตรการอยู่ในดุลพินิจของธนาคาร กรณีที่ลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ กรุณาติดต่อธนาคาร เพื่อรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือที่เหมาะสม เอกสารที่ใช้ในการลงทะเบียน - สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้ - เอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อ - นามสกุลของผู้กู้ (ถ้ามี) - เอกสารแสดงรายได้ก่อนได้รับผลกระทบ - เอกสารแสดงรายได้หลังได้รับผลกระทบ - เอกสารแสดงความสัมพันธ์ของผู้ได้รับผลกระทบและผู้กู้* (ถ้ามี) *หากเป็นบิดา มารดา บุตร แสดงเป็นสำเนาทะเบียนบ้าน หรือเป็นคู่สมรสแสดงสำเนาทะเบียนสมรส เป็นต้น
วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ และตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์
ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
website : www.krungthai.com
facebook : Krungthai Care
Call Center : 0-2111-1111
3. ธนาคารกรุงเทพ
สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ของธนาคารกรุงเทพ มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ดังนี้ เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือ เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือ ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้ วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.bangkokbank.com หรือติดต่อสาขาของธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 - 30 มิถุนายน 2564 ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ website : www.bangkokbank.com Call Center : 1333
4. ธนาคารทิสโก้
ธนาคารทิสโก้มีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมในระยะที่ 2 สำหรับลูกค้ากลุ่มสินเชื่อบ้าน ดังนี้ - เลื่อนการจ่ายเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยตามความเหมาะสม หรือลดค่างวดโดยขยายเวลาชำระหนี้ เงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือฯ - เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 มีสินเชื่อกับธนาคาร และต้องมีสถานะไม่ค้างชำระ / ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยไม่เกินกว่า 90 วัน ลงทะเบียนเพื่อขอเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือฯ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ [url=https://forms.tisco.co.th/]https://forms.tisco.co.th/ [/color][/url]
ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ website : www.tisco.co.th facebook : TISCO Call Center : 0-2080-6000
5. ธนาคารไอซีบีซี (ไทย)
ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยสามารถเลือกเข้าร่วมมาตรการใดมาตรการหนึ่งดังต่อไปนี้ - ผ่อนปรนการชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือผ่อนปรนการชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 3 เดือน และปรับอัตราดอกเบี้ยตามความเหมาะสม หรือ
ปรับลดยอดผ่อนชำระค่างวด และขยายระยะเวลาชำระหนี้ ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิพิจารณาตามการแจ้งความประสงค์เป็นรายกรณี วิธีลงทะเบียน : สามารถแจ้งความประสงค์ได้ทางสาขาของธนาคาร หรือ ICBC (Thai) Call Center (0-2629-5588) เพื่อรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของธนาคาร และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.icbcthai.com ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ website : www.icbc.com.cn Call Center : 0-2629-5588
6. ธนาคารยูโอบี
สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านของธนาคารยูโอบี ก็มีโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในโปรแกรมรวมหนี้ (Debt Consolidation) โดยผู้เข้าร่วมมาตรการจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1. เป็นลูกค้าที่มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อกับธนาคารยูโอบี ดังต่อไปนี้ - มีบัญชีสินเชื่อบ้านยูโอบี - มีบัญชีสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน ได้แก่ บัตรเครดิตยูโอบี หรือบัตรกดเงินสดยูโอบีแคชพลัส หรือบัญชีสินเชื่อยูโอบีไอแคช 2. เป็นลูกค้าสินเชื่อบ้านมาแล้วอย่างน้อย 12 เดือน นับจากวันทำสัญญา - มีรายได้ต่อเดือน ขั้นต่ำ 20,000 บาท สำหรับลูกค้าสินเชื่อ Home Loan เดิม และขั้นต่ำ 30,000 บาท สำหรับลูกค้าสินเชื่ออเนกประสงค์ Cash to Home เดิม - ลูกค้าต้องกู้ในนามลูกหนี้เดิมของสินเชื่อบ้าน เช่น หนี้เดิมกู้ร่วม (ก+ข) วงเงิน Top up ก็ต้องกู้ร่วม (ก+ข) ด้วย วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ https://forms.uobthailand.com ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ website : www.uob.co.th facebook : UOB Call Center : 0-2285-1555
7. ธนาคารทีเอ็มบี และธนชาต
ธนาคารทีเอ็มบี และธนชาต ออกแนวทางการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน ดังนี้ - พักชำระเงินต้น โดยยังคงชำระเฉพาะดอกเบี้ย นาน 6 เดือน หรือ - ลดยอดผ่อนชำระเหลือ 70% นาน 6 เดือน หรือ - พักชำระค่างงด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของธนาคารสำหรับลูกค้าแต่ละราย เงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือฯ - สำหรับลูกค้าที่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือก่อนหน้านี้และครบระยะเวลาแล้ว สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการใหม่ได้ตามปกติ - สำหรับลูกค้าที่ยังอยู่ระหว่างเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือก่อนหน้านี้ จะต้องให้สิ้นสุดมาตรการเดิมก่อน จึงจะลงทะเบียนมาตรการใหม่นี้ได้ วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนผ่านทางสาขาของธนาคาทั่วประเทศ หรือ Call Cer ทีเอ็มบี โทร. 1558 / ธนชาต โทร. 1770 ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ website : www.tmbbank.com facebook : TMB Call Center : ทีเอ็มบี โทร. 1558 / ธนชาต โทร. 1770
8. ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรก็มีมาตรการพักชำระหนี้บ้านให้ลูกค้า 3 ทางเลือก คือ ทางเลือกที่ 1 : จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยและลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.1% เป็นเวลา 3 เดือน ทางเลือกที่ 2 : ลดค่างวด 50% ของค่างวดเดิม เป็นเวลา 3 เดือน ทางเลือกที่ 3 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน หมายเหตุ : ทางเลือกที่ 2 และ ทางเลือกที่ 3 ยังมีการคำนวณดอกเบี้ยตามปกติ หลักเกณฑ์ทั่วไป - การเข้ามาตรการไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ และไม่คิดค่าปรับการชำระหนี้ก่อนกำหนด - หากลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ได้ให้เข้ามาปรึกษาธนาคารเพื่อเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคาร คุณสมบัติผู้เข้าร่วมมาตรการ 1. ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์ COVID-19 เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน หรือธุรกิจที่ปิดบริการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ 2. ลูกค้าต้องไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ (NPL) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 3. ลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติก่อน วันที่ 1 มกราคม 2564 หมายเหตุ : สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน ต้องเป็นลูกค้าที่จดทะเบียนจำนองหลักประกัน ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2564 วิธีลงทะเบียน : ลงทะเบียนโดยพิมพ์ @help ผ่านช่องทาง Line KBank Live หรือ Call Center ที่เบอร์ 02-888-8888 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2564 นอกจากนี้ยังสามารถนำสินเชื่อบ้านกสิกรไปใช้เป็นหลักประกัน ตามมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการรวมหนี้ประเภทต่างๆ ที่ธนาคารกำหนด เพื่อแบ่งเบาภาระในการชำระหนี้ โดยที่ลูกค้ายังสามารถใช้วงเงินบัตรเครดิตที่เหลือได้ และจะไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิตกับธนาคาร ดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ website : www.kasikornbank.com facebook : KBank Live Call Center : 02-8888888 สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้บ้านของแต่ละธนาคารก็สามารถลงทะเบียนกันได้แล้วผ่านทางสาขาของธนาคารทั่วประเทศ และเพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ก็สามารถลงทะเบียนได้เองผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ หากอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเช็กผ่านทางออนไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ ทั้งนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติ่มจากธนาคารอื่นๆ จะมาอัปเดตให้ทราบกันอีกครั้งนะคะ ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊กธนาคารแห่งประเทศไทย , เฟซบุ๊ก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ , krungthai , bangkokbank , tisco , icbc , uob , tmbbank และ kasikornbank